Trace Id is missing
ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
เรื่องราวของลูกค้า
13/1/2565

AIS กับภารกิจแอปพลิเคชั่นลงทะเบียนวัคซีนโควิด-19 บน Azure ใน 10 วัน

AIS เป็นที่ยอมรับในฐานะผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และได้มีการขยายธุรกิจในด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 เป็นต้นมา โดยปัจจุบัน AIS ขยายการให้บริการไปสู่แพลตฟอร์มดิจิทัล อาทิ เว็บไซต์ แอปพลิเคชั่นบนมือถือ และแอปพลิเคชั่นใช้จ่ายออนไลน์ ทั้งหมดนี้ทำให้ AIS เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงบริการได้หลากหลายช่องทางและมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงนำไปสู่จุดเริ่มต้นที่ทำให้ AIS เลือกให้บริการผ่านคลาวด์ Microsoft Azure ที่ช่วยให้แอปพลิเคชั่นของ AIS สามารถรับมือกับ ‘ชั่วโมงเร่งด่วน’ ได้อย่างราบรื่น จนกระทั่งทำภารกิจใหญ่ได้สำเร็จในช่วงกลางปีที่ผ่านมา

ภารกิจนี้เกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลขอรับการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีจากภาคเอกชนในการแจกจ่ายวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนไทย AIS ได้พัฒนาเว็บแอปพลิเคชั่นจุดรับลงทะเบียนวัคซีนโควิด-19 ขึ้นบน Azure ในระยะเวลาแค่ 10 วัน และผลลัพธ์ที่ได้คือแอปพลิเคชั่นที่สามารถรองรับการลงทะเบียนกว่า 100,000 คนได้อย่างราบรื่น และเต็มโควต้าภายใน 4 ชั่วโมงแรกที่เปิดให้บริการ

Advanced Info Service

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา AIS มุ่งมั่นให้บริการสื่อสารความเร็วสูงที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย โดยมีเป้าหมายในการสร้างความเชื่อมโยงถึงกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในขณะเดียวกัน ก็พร้อมรับมือกับสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมการสื่อสาร ตลอดจนพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภค

เพื่อให้เป้าหมายนี้เกิดขึ้นจริง AIS จึงเฟ้นหาพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีที่มีมุมมองในทิศทางเดียวกัน และเมื่อได้เข้ารับคำปรึกษาจากทีมงานของไมโครซอฟท์ ทาง AIS จึงตัดสินใจร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ในทันที และนับจากนั้นเป็นต้นมา ความร่วมมือระหว่าง AIS และไมโครซอฟท์ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาศักยภาพเชิงดิจิทัลในประเทศไทย โดยปัจจุบัน AIS ได้เปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจ จากการเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ สู่การเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลครบวงจร เข้าถึงผู้ใช้งานกว่า 43 ล้านคน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้พัฒนาสังคมไทยให้ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน  

การทำงานบนระบบเก่าที่ไม่ตอบโจทย์ความคาดหวัง  

หนึ่งในปัญหาที่ AIS ได้เจอจากการเปิดตัวแคมเปญหรือสินค้าใหม่บนโลกออนไลน์ คือระบบที่ไม่สามารถรองรับการทำงานในชั่วโมงเร่งด่วนได้ ทำให้เกิดเหตุการณ์ระบบล่มอยู่บ่อยครั้ง และผู้ใช้งานทำธุรกรรมออนไลน์ไม่สำเร็จ ผลที่ตามมาคือรายได้ที่หายไปจากความติดขัดของระบบ 

เมื่อถึงคราวที่ต้องพัฒนาระบบขึ้นเพื่อรองรับการเปิดจอง iPhone 12 ในปี 2563 ทาง AIS จึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ด้วยการนำ Azure เข้ามาใช้พัฒนาแอปพลิเคชั่น โดย AIS ได้ประเมินจำนวนผู้ใช้งาน หรือที่เรียกว่า Traffic คร่าวๆ อยู่ที่ 10,000 คนต่อวินาที นั่นหมายความว่าระบบจะต้องสามารถรองรับจำนวนผู้ใช้งานได้ขั้นต่ำอยู่ที่ตัวเลขนี้เท่านั้น ซึ่ง Azure ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการขยายการรองรับระดับ Hyper-scaling ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนมากสามารถดำเนินการขั้นตอนต่างๆ บนแอปพลิเคชั่นพร้อมๆ กันได้อย่างราบรื่น โดยก่อนเปิดให้ลงทะเบียน ทาง AIS ได้มีการทดสอบระบบอยู่หลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าการตอบสนองของแต่ละขั้นตอนจะไม่นานเกินกว่า 1-3 วินาที แม้ในเวลาที่ผู้ใช้งานลงทะเบียนพร้อมๆ กัน 10,000 คน ซึ่งแน่นอนว่า Azure ตอบโจทย์ทุกข้อในการทดสอบนี้ 

รองรับจำนวนผู้ใช้งานได้อย่างราบรื่น  

“คลาวด์ Azure สามารถขยายการรองรับได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แม้มีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้” คุณศุภชัย พานิชายุนนท์ หัวหน้าหน่วยธุรกิจพัฒนาโซลูชั่นส์ AIS กล่าวต่ออีกว่า “เราสามารถให้บริการลงทะเบียนได้ราบรื่นทุกขั้นตอน ทั้งที่มีผู้ใช้งานมากขึ้น 3-5 เท่า จากระบบการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์แบบเก่า ไม่มีปัญหาระบบล่มหรือล่าช้าเกิดขึ้นเลย มีแต่ความพึงพอใจของผู้ใช้งานในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีสะดุดระหว่างทาง” การเปิดจอง iPhone 12 ครั้งนั้นประสบความสำเร็จด้วยดี และกลายเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีครั้งสำคัญของ AIS 

ในปีนี้ AIS มีสองภารกิจหลักที่ได้นำระบบดังกล่าวมาใช้ ตั้งแต่การพัฒนาแอปพลิเคชั่นลงทะเบียนวัคซีนโควิด19 ที่ได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐให้จัดดำเนินการ เพื่อกระจายวัคซีนไปสู่คนไทย และอีกหนึ่งโจทย์อย่างการเปิดลงทะเบียนจอง iPhone 13 ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เข้าลงทะเบียนล้นหลามกว่าปีก่อนๆ แต่ระบบใหม่ของ AIS ก็ยังสามารถรองรับได้อย่างราบรื่นถึงขีดสุด ไม่มีสะดุดในทุกขั้นตอน จึงเป็นการยืนยันประสิทธิภาพของ Azure ที่ช่วยให้ภารกิจระดับชาติสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี  

“คลาวด์ Azure คือที่สุดของความยืดหยุ่น เหมาะกับการใช้งานที่จำนวนผู้ใช้งานมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพราะ Hyper-scaling บน Azure ขยายการรองรับได้ แม้ในเวลาที่จำกัด”

คุณศุภชัย พานิชายุนนท์, หัวหน้าหน่วยธุรกิจพัฒนาโซลูชั่นส์, AIS

ภารกิจพัฒนาแอปพลิเคชั่นลงทะเบียนวัคซีน

AIS อยากมีส่วนร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับสังคมอยู่เสมอ จึงตอบรับคำขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาลในภารกิจแห่งชาติ แม้จะเป็นความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่เพราะมีเวลาดำเนินการเพียงแค่ 10 วันเท่านั้น ในครั้งนั้น ฝ่ายไอทีของ AIS นำโดยคุณพัชราภา ลีลพนัง ได้แสดงศักยภาพในการพัฒนาแอปพลิเคชั่นได้สำเร็จตามเวลาที่กำหนด และยังได้สร้างระบบแจ้งเตือน (Notification) สำหรับผู้ลงทะเบียนพร้อมด้วย QR code ในการแสดงตัวตน ณ จุดให้บริการวัคซีน   

ณ เวลานั้น ประเทศไทยยังอยู่ในเฟสแรกของการแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 ทาง AIS คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ลงทะเบียนอาจจะถาโถมเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นที่ระบบจะต้องมีความพร้อมสูงสุดในทุกๆ ส่วน โดยคุณศุภชัยได้เล่าว่า “เราได้ขอให้ทางไมโครซอฟท์เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องการออกแบบระบบโครงสร้างพื้นฐานของไอทีที่เหมาะสมกับภารกิจขนาดใหญ่ รวมถึงช่วยแนะนำเซิร์ฟเวอร์และโซลูชั่นส์อื่นๆที่จะทำให้ขั้นตอนการลงทะเบียนเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด” 

ทีม AIS อยากให้ผู้ที่เข้ามาลงทะเบียน ดำเนินการลงทะเบียนได้จนจบในไม่กี่ขั้นตอนและใช้เวลาน้อยที่สุด ไม่ต้องเจอกับปัญหาล่าช้า ระบบล่ม หรือระบบค้าง ซึ่งเป็นปัญหาคลาสสิกของการลงทะเบียนแบบเก่า “ก่อนเปิดลงทะเบียน เราทดสอบระบบกันหลายต่อหลายครั้ง จนแน่ใจว่า Azure สามารถรับมือกับจำนวนผู้ใช้งานและการลงทะเบียนในลักษณะนี้ได้อย่างไม่ติดขัด และยังพบข้อดีในแง่ความเสถียรของระบบที่ทำให้การทำงานทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้” คุณศุภชัยได้กล่าวเพิ่มเติมในส่วนนี้  

การลงทะเบียนบนคลาวด์ที่ไร้ข้อติดขัด

ในวันแรกที่เปิดให้ลงทะเบียน ระบบเริ่มให้บริการในเวลา 9 โมงเช้า และลงทะเบียนเต็มโควตาในเวลา 12.30 น. คุณศุภชัยเล่าถึงเหตุการณ์วันนั้นว่า “การลงทะเบียนราบรื่น ไม่มีช่วงเวลาดาวน์ไทม์ ที่สำคัญแอปพลิเคชั่นยังรองรับคนลงทะเบียนได้กว่า 100,000 คน ภายในระยะเวลาไม่ถึง 4 ชั่วโมง” 

นอกจากนี้ ภารกิจดังกล่าวยังต้องอาศัยการทำงานร่วมกันระหว่างทุกองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ขั้นตอนการแจกจ่ายวัคซีนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การลงทะเบียน การแจ้งเตือน การอำนวยความสะดวก ณ จุดให้บริการวัคซีนหลัก โดยในส่วนนี้ AIS ต้องตั้งรับกับทุกการเปลี่ยนแปลง ทุกภารกิจย่อยระหว่างทาง และต้องคอยประสานกับทางรัฐบาล เพื่อให้การดำเนินงานเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนชาวไทย

เพิ่มประสิทธิภาพทุกขั้นตอน และลดการใช้กระดาษไปพร้อมกัน

นอกจากภารกิจที่กล่าวมา AIS ยังได้ใช้โซลูชั่นส์ของไมโครซอฟท์ในการพัฒนาระบบงานภายในองค์กร เพื่อให้ทำงานเป็นทีมได้อย่างไร้รอยต่อ หลายๆ ฝ่ายได้นำระบบ RPA (Robotic Process Automation) และ Power Apps มาใช้พัฒนาแอปพลิเคชั่นที่รองรับการทำงานในฝ่ายของตนเอง รวมถึงการพัฒนาระบบ eMemo บนโครงสร้างไอที Azure Cloud ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดการใช้กระดาษลงไปได้อย่างมหาศาล โดยคุณศุภชัยเผยว่า “ตั้งแต่ที่คนใน AIS เริ่มใช้ ระบบ eMemo และ Power Apps ในการทำงาน ปริมาณการใช้กระดาษก็ลดลงเหลือเพียงแค่ 1% เท่านั้น ซึ่งเท่ากับว่าเรากำลังล่วงหน้าไปสู่การทำงานแบบ paperless อย่างแท้จริง” 

คุณศุภชัยยังกล่าวอีกว่า “ความช่วยเหลือและคำแนะนำที่ได้จากไมโครซอฟท์ ทั้งในแง่เทคนิคและการทำธุรกิจ ทำให้ AIS ก้าวสู่โลกดิจิทัลได้อย่างราบรื่น ความเชี่ยวชาญและศักยภาพเชิงลึกของไมโครซอฟท์ ทำให้เราสามารถนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้ในองค์กรได้มากขึ้น รวมไปถึงการย้ายระบบเก่าไปไว้บนคลาวด์ Azure ด้วย” เมื่อเร็วๆ นี้ AIS ยังได้จัดตั้ง Cloud Delivery Center ร่วมกับไมโครซอฟท์ เพื่อเป็นศูนย์กลางให้คำแนะนำด้านการจัดการแอปพลิเคชั่น และยังมีเช็คลิสต์ในการย้ายแอปพลิเคชั่นแบบ on-premise ขึ้นไปอยู่บน Azure อีกด้วย

ท้ายที่สุด เส้นทางการพัฒนาดิจิทัลของ AIS ยังคงดำเนินต่อไป “4 ปีต่อจากนี้ พวกเราตั้งใจจะย้ายอีกกว่า 100 แอปพลิเคชั่นไปไว้บน Azure ทั้งหมด เพื่อให้การทำงานทุกฝ่ายรวมศูนย์ ราบรื่นไร้รอยต่ออย่างแท้จริง” 

“4 ปีต่อจากนี้ AIS จะย้ายอีกกว่า 100 แอปพลิเคชั่นไปไว้บน Azure ทั้งหมด เพื่อให้การทำงานของทุกฝ่ายรวมศูนย์ ราบรื่นไร้รอยต่ออย่างแท้จริง”

คุณศุภชัย พานิชายุนนท์, หัวหน้าหน่วยธุรกิจพัฒนาโซลูชั่นส์, AIS

ค้นพบรายละเอียดเพิ่มเติม

ผลิตภัณฑ์
ขนาดขององค์กร
ประเทศ
ความต้องการทางธุรกิจ
อุตสาหกรรม
ใช้ขั้นตอนต่อไป

ขับเคลื่อนนวัตกรรมด้วย Microsoft

พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโซลูชันแบบกำหนดเอง

ให้เราช่วยคุณสร้างโซลูชันแบบกำหนดเองและบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณ

ขับเคลื่อนผลลัพธ์ด้วยโซลูชันที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว

บรรลุผลสำเร็จมากขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ช่วยให้ลูกค้าของเราบรรลุเป้าหมาย

ติดตาม Microsoft